from aaa_catalog where idp='4532' Air India ร่วมมือ Apple ยกระดับประสบการณ์เดินทางผ่านเทคโนโลยีติดตามสัมภาระแบบเรียลไทม์

Air India ร่วมมือ Apple ยกระดับประสบการณ์เดินทางผ่านเทคโนโลยีติดตามสัมภาระแบบเรียลไทม์

08/04/2025 04:27 Views: 35
 
Air India ร่วมมือ Apple ยกระดับประสบการณ์เดินทางผ่านเทคโนโลยีติดตามสัมภาระแบบเรียลไทม์


สายการบินแอร์อินเดีย (Air India) เป็นสายการบินแห่งแรกในเอเชียที่นำฟีเจอร์ติดตาม AirTag ของ Apple มาใช้เข้ากับระบบติดตามสัมภาระ ผ่านแอปบนมือถือและเว็บไซต์ของสายการบิน ช่วยให้ผู้โดยสารที่ใช้ iPhone, iPad หรือ Mac สามารถติดตามตำแหน่งกระเป๋าเดินทางของตนได้อย่างปลอดภัยและเรียลไทม์


Air India ขนส่งกระเป๋ากว่า 100 ล้านใบต่อปี โดยมีอัตราการส่งมอบพร้อมกับผู้โดยสารกว่า 99.6% สำหรับกรณีส่วนน้อยที่กระเป๋าเดินทางไม่มาถึงตามเวลา ระบบใหม่นี้จะช่วย ระบุตำแหน่งกระเป๋าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และเพิ่มโอกาสในการส่งคืนอย่างแม่นยำ


ระบบใหม่นี้จะทำงานร่วมกับระบบติดตามสัมภาระแบบเรียลไทม์ที่สายการบินมีอยู่แล้ว ซึ่งจะแสดงข้อมูลทันทีที่มีการโหลดกระเป๋าลงทะเบียนไว้ โดยสำหรับผู้โดยสารที่ได้เพิ่มเที่ยวบินไว้ในส่วน “My Trips” ของแอป Air India ระบบจะแสดงสถานะกระเป๋าโดยอัตโนมัติหลังเช็คอิน และยังสามารถเข้าไปติดตามผ่านแท็บ “Track my Bags” บนเว็บไซต์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถสแกนบาร์โค้ดจากใบรับสัมภาระเพื่อติดตามกระเป๋าได้ด้วยตนเอง


ในกรณีที่กระเป๋าพร้อม AirTag ไม่เดินทางมาถึง ผู้โดยสารสามารถแจ้งเรื่องได้ที่เคาน์เตอร์สัมภาระของ Air India ในสนามบิน โดยเจ้าหน้าที่จะช่วยกรอกแบบฟอร์มแจ้งทรัพย์สินสูญหาย (PIR) หลังจากนั้น ผู้โดยสารจะต้องเข้าแอป “Find My” ของ Apple บนอุปกรณ์ส่วนตัวเพื่อเลือก “Share Item Location” แล้วส่งลิงก์ตำแหน่งนั้นให้กับสายการบินผ่านทางแอปหรือเว็บไซต์


ผ่านแอป Air India: ให้เข้าไปที่ “Customer Support Portal” จากนั้นเลือกหัวข้อ “Baggage” และไปที่ “Lost and Found Check-in Baggage” เพื่อแนบลิงก์ตำแหน่งของ AirTag


ผ่านเว็บไซต์ Air India: เข้าเมนู “Lost and Found Check-in Baggage” ภายใต้ Customer Support Portal เพื่อแนบลิงก์ตำแหน่งของ AirTag พร้อมกับหมายเลข PIR


หลังจากที่ลิงก์ถูกส่งเข้าระบบ ผู้โดยสารจะได้รับอีเมลยืนยันพร้อมลิงก์สำหรับตรวจสอบสถานะของกระเป๋า ในส่วนนี้ ทีมงานสนามบินของ Air India ที่ได้รับอนุญาตจะสามารถใช้ข้อมูลตำแหน่งดังกล่าวเพื่อช่วยระบุตำแหน่งกระเป๋าและดำเนินการส่งคืนได้อย่างรวดเร็วที่สุด


เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้โดยสาร การแชร์ตำแหน่งกระเป๋าจะสิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติเมื่อกระเป๋าถูกส่งคืนให้เจ้าของ หรือเมื่อครบ 7 วันหลังจากการแชร์ตำแหน่ง และผู้โดยสารสามารถหยุดการแชร์ได้ตลอดเวลาตามความต้องการ

ทั้งนี้ ผู้โดยสารจะต้องใช้อุปกรณ์ของ Apple ที่อัปเดตระบบปฏิบัติการเป็น iOS 18.2, iPadOS 18.2 หรือ macOS 15.2 ขึ้นไป จึงจะสามารถใช้งานฟีเจอร์ “Share Item Location” นี้ได้


แผนกบัตรโดยสารและราคา 

www.kmt.co.th





Read more...


Read more...