เทศกาลอะโอโมริ เนบุตะ หนึ่งในสามเทศกาลใหญ่แห่งภูมิภาคโทโฮคุ
| |||
|
เทศกาลอะโอโมริ เนบุตะ (Aomori Nebuta Matsuri) คือหนึ่งในงานประเพณีฤดูร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามเทศกาลสำคัญประจำภูมิภาคโทโฮคุ ร่วมกับเทศกาลเซนได ทานาบาตะ และเทศกาลคะซะฮะนะ ในเมืองอากิตะ เทศกาลนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ เมืองอะโอโมริ จังหวัดอะโอโมริ ทางตอนเหนือของประเทศ โดยมีกำหนดจัดงานในช่วงต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี จุดเด่นของเทศกาลคือ “ขบวนโคมไฟเนบุตะ” ซึ่งเป็นโคมไฟขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากโครงไม้หรือโลหะ หุ้มด้วยกระดาษวาชิ แล้ววาดลวดลายอย่างประณีตเป็นรูปนักรบในตำนาน ตัวละครจากเรื่องเล่าโบราณ หรือเทพเจ้าจากความเชื่อพื้นบ้าน โคมเหล่านี้จะถูกติดตั้งบนรถลากและแห่ไปตามถนนสายหลักของเมือง ท่ามกลางเสียงกลองไทโกะ ขลุ่ยฮายาชิ และเสียงตะโกนจังหวะ "รัสเซะราห์!" จากเหล่านักเต้น “ฮาเนโตะ” ที่กระโดดเต้นอย่างสนุกสนานในชุดพื้นเมืองหลากสี ความพิเศษของเทศกาลนี้คือการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนแห่ได้ ไม่จำกัดเฉพาะชาวเมืองเท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถเช่าชุดฮาเนโตะจากร้านในตัวเมือง และลงทะเบียนเข้าร่วมขบวนได้อย่างถูกต้องตามระเบียบ ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ทำให้เทศกาลนี้เปี่ยมไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวา
กำหนดการงานเทศกาล เทศกาลอะโอโมริ เนบุตะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 ถึง 7 สิงหาคมของทุกปี ในช่วงวันที่ 2 ถึง 6 สิงหาคม จะเป็นการแห่ขบวนโคมไฟเนบุตะตามท้องถนนของเมืองอะโอโมริ ขบวนแห่จะเริ่มในช่วงเย็นและดำเนินไปจนถึงเวลาประมาณ 21.00 น. ของแต่ละวัน ผู้ชมสามารถเลือกชมได้ตามจุดต่าง ๆ ทั่วเมือง โดยมีการจัดพื้นที่ชมทั้งแบบทั่วไปและแบบที่นั่งสำรองล่วงหน้า ในวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของงาน จะมีการจัด “ขบวนแห่ทางน้ำ” โดยนำโคมไฟที่ได้รับรางวัลในปีนั้นลอยแพไปบนผืนน้ำของอ่าวอะโอโมริ ซึ่งเป็นฉากหลังที่งดงามและสงบนิ่ง แตกต่างจากความคึกคักของการแห่บนท้องถนนอย่างสิ้นเชิง โคมที่ลอยน้ำจะสะท้อนแสงกับผิวน้ำและท้องฟ้ายามเย็นอย่างมีเสน่ห์ พร้อมกันนั้นจะมีการแสดงดอกไม้ไฟเหนืออ่าวอะโอโมริ เริ่มขึ้นในเวลา 19:15 น. และดำเนินต่อเนื่องยาวนานกว่า 90 นาที โดยจะมีการจุดดอกไม้ไฟมากกว่า 10,000 นัด เป็นการปิดท้ายเทศกาลด้วยความยิ่งใหญ่ และกลายเป็นภาพความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนสำหรับผู้ที่ได้มาสัมผัสด้วยตนเอง สิ่งที่ควรทราบสำหรับผู้เข้าชม แม้ว่าพื้นที่จัดงานจะเปิดให้เข้าชมฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ในวันสุดท้ายของงาน ผู้เข้าชมควรเดินทางไปยังบริเวณริมอ่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ถึง 2 ชั่วโมงก่อนเริ่มกิจกรรม เพื่อจับจองพื้นที่ชมในจุดที่ดีที่สุด บริเวณสวน Aoiumi Park และท่าเรือใหม่ของเมืองเป็นพื้นที่ยอดนิยมซึ่งสามารถมองเห็นทั้งขบวนโคมลอยน้ำและพลุได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสภาพอากาศ โดยเฉพาะบริเวณริมทะเลที่อาจมีลมแรงและอากาศเย็นลงในช่วงกลางคืน รวมถึงควรวางแผนการเดินทางล่วงหน้า เนื่องจากการจราจรอาจติดขัด และบริการขนส่งสาธารณะจะมีผู้ใช้งานจำนวนมากหลังจบงาน
การเดินทางไปยังเมืองอะโอโมริ การเดินทางไปยังเมืองอะโอโมริสามารถทำได้สะดวกจากเมืองหลักในญี่ปุ่น โดยมีหลายตัวเลือกตามงบประมาณและเวลาเดินทางที่ต้องการ สำหรับผู้เดินทางจากโตเกียว สามารถโดยสารรถไฟชินคันเซ็นสายโทโฮคุ (Tohoku Shinkansen) จากสถานีโตเกียวไปยังสถานีชินอะโอโมริ (Shin-Aomori) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นต่อรถไฟท้องถิ่นหรือ Aoimori Railway อีกประมาณ 10 นาทีเพื่อเข้าสู่สถานีอะโอโมริ (Aomori Station) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บริเวณจัดงาน อีกหนึ่งทางเลือกคือการเดินทางโดยเครื่องบินภายในประเทศ โดยสามารถขึ้นเครื่องจากสนามบินฮาเนดะในกรุงโตเกียวมายังสนามบินอะโอโมริ (Aomori Airport) ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที จากนั้นต่อรถบัสสนามบินเข้าสู่ใจกลางเมือง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30–40 นาที นอกจากนี้ยังมีรถบัสทางไกล (night bus) จากเมืองใหญ่อื่น เช่น โตเกียว เซนได หรือซัปโปโร ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณและไม่เร่งรีบ เมื่อมาถึงตัวเมืองแล้ว จุดจัดงานหลักอยู่ในระยะที่สามารถเดินถึงได้จากสถานีอะโอโมริโดยสะดวก และมีการจัดการจราจรอย่างดีตลอดช่วงเทศกาล แผนกบัตรโดยสารและราคา www.kmt.co.th |
