เมื่อต้องนำ ถุงกอล์ฟ ขึ้นเครื่องบิน
| |||||
 ถุงกอล์ฟ กับเครื่องบิน เป็นสิ่งที่หนีกันไม่พ้น สำหรับนักธุรกิจที่เดินทางไปตีกอล์ฟ ตามสนามต่างๆ ทั่วประเทศไทย ทั้งเชียงใหม่ และภูเก็ต ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับกิจกรรมของคนมีเงินเหล่านี้ แน่นอนสัมภาระชนิดนี้มีน้ำหนักไม่เบาเช่นกัน ถุงกอล์ฟ ประกอบด้วยหัวไม้ตีประเภทต่างๆ และลูกกอล์ฟ โดยมีน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม ปัจจุบันถุงกอล์ฟ อย่างเดียวได้ถูกผลิตขึ้นให้มีน้ำหนักเบา เพื่อเหมาะสมแก่การเคลื่อนย้าย เช่นถุงผ้าไนล่อนกันน้ำ หรือถุงแบบ Cobra ที่มีน้ำหนักเบาและไม่แพงมากนัก และที่ฮิตสุดเป็น Travel Bag ซึ่งมีถุงคุลมใส่ด้วย เพื่อกันความเสียหายระหว่างโหลดขึ้นเครื่อง สายการบินต่างๆ อนุญาตให้นำอุปกรณ์กอล์ฟขึ้นเครื่องบิน โดยผู้โดยสารจะต้องวางแผนการซื้อสัมภาระล่วงหน้าดีๆ สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำบางสาย เพราะอาจจะ แจ็คพ็อต โดนราคาหน้างานแบบหมดอารมย์ เพราะนั่นหมายถึงแพงกว่าค่ากรีนฟรีที่ท่านต้องจ่ายด้วยซ้ำ เรามาดูอัตราการคิดค่าน้ำหนักของการขนถุงกอล์ฟกันเลยครับ 1. สายการบินไทย และ สายการบินไทยสไมล์ ค่าน้ำหนักถุงกอล์ฟ จะคิดรวมไปในน้ำหนัก มาตรฐานในการโหลดกระเป๋าอื่นๆ นั่นหมายถึงต้องห้ามเกินน้ำหนักที่ให้นั่นเอง หากเกินจะต้องชำระส่วนต่างน้ำหนักตามอัตราของสายการบิน 2. สายการบิน บางกอกแอร์เวย์ ใช้หลักการเดียวกับสายการบินไทย แต่ถ้าเกินคิด กก. ละ 90 บาทสำหรับในประเทศ 3. สายการบิน นกแอร์ ใช้หลักการเดียวกับสายการบินไทย 4. สายการบินไทยแอร์เอเชีย อันนี้ท่านต้องซื้อน้ำหนักสำหรับอุปกรณ์ชนิดนี้เพิ่ม โดยมีอัตราดังนี้
5. สายการบินไทย Lion Air สายการบินนี้เหมาะแก่กีฬาประเภทนี้ที่สุด เนื่องจากเขาให้ฟรี 15 กก. พิเศษ นอกเหนือจากน้ำหนักที่ได้ตามปกติของสายการบิน ทั้งนี้ใครสะดวกบินสายการบินอะไรก็สามารถที่จะเลือกได้และสามารถใช้ข้อมูลนี้แพลนล่วงหน้าได้เลยครับ แผนกบัตรโดยสารและราคา www.kmt.co.th |
